วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2563

รายการนำเที่ยว 3 วัน 2 คืน จังหวัดสุรินทร์ - ศรีสะเกษ


 

วันที่ 1 หมู่บ้านทอผ้าไหมมัดหมี่ ปราสาทศรีขรภูมิ Craft Café หมู่บ้านช้าง โลกของช้าง ถนนคนเดินมารีหนองแคน

08.00 .

ออกเดินทางไป บ้านจารพัต ตำบลจารพัต อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์

08.30 .

ถึงหมู่บ้านทอผ้าไหมมัดหมี่ที่เหมาะจะเข้ามาเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่กล้าคิดพลิกแพลงงานทอผ้าไหมให้ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ภายในศูนย์เรียนรู้มีทั้งโชว์รูมผ้าไหมลวดลายต่างๆ แขวนให้ชมและเลือกซื้อเต็มผนัง ส่วนด้านหลังเป็นโรงทอขนาดย่อมที่ชาวบ้านกำลังขมักเขม้นกับการทอผ้า เส้นไหมนำไปย้อมด้วยไม้มงคล 9 ชนิด มีทั้งแก่นขนุน แก่นมะขาม แก่นมะยม ดอกดาวเรือง ต้นคูณ ขมิ้น ต้นอร่าง ครั่ง รวมทั้งหมักด้วยโคลนกอบัว เพื่อช่วยให้ผ้ามีสัมผัสนุ่มนวลยิ่งขึ้นโดยผ้าไหมที่ทอออกมาจะเกิดลวดลายจากการมัดตามจินตนาการและมีความหมายมงคล อย่างลายดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบ ดอกคูณ ไปจนถึงฉากงานบวช หรือจะเป็นสีพื้น สีเหลื่อม ก็มีให้เลือกในราคาไม่แพง

 

09.30 .

จากนั้นเข้าชมปราสาทศรีขรภูมิ มาถึง อำเภอศรีขรภูมิ ไม่ควรพลาดแวะมาชมความงดงามของโบราณสถานคู่เมืองแห่งนี้ องค์ปราสาทสันนิษฐานว่าสร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 17 เพื่อเป็นศาสนสถานในลัทธิไศวนิกาย สร้างเป็นหมู่ปรางค์ 5 องค์ แบบก่ออิฐไม่สอปูน ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงกว้าง 25 เมตร ยาว 26 เมตร และมีคูน้ำล้อมรอบ 3 ด้าน ความโดดเด่นเป็นที่เลื่องลืออยู่ที่ปรางค์องค์ประธานประดับทับหลังที่มีความสวยงามและสมบูรณ์ที่สุดชิ้นหนึ่งของเมืองไทย แกะสลักเป็นภาพพระศิวนาฏราชสิบกร ทรงฟ้อนรำอยู่เหนือเกียรติมุข ภายใต้วงโค้งลายท่อนมาลัย ซึ่งสลักเป็นภาพพระคเณศ พระพรหม พระวิษณุ และพระอุมา ส่วนบริเวณเสากรอบประตูสลักเป็นรูปนางอัปสรถือดอกบัวและทวารบาลยืนกุมกระบอง ซึ่งคล้ายกับนางอัปสราที่ปราสาทนครวัด โดยเป็นรูปแบบที่ไม่พบในปราสาทหินที่อื่นในไทยเลย พบที่ปราสาทศีขรภูมิเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ที่ตั้ง ต.ระแงง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์

10.30 .

ออกเดินทางจากปราสาทศรีขรภูมิไป Craft Café

11.00 .

ถึง Craft Café คาเฟ่ในบ้านบรรยากาศอบอุ่นกลางเมืองสุรินทร์ มีทั้งโซนนั่งด้านในห้องแอร์ และสวนกลางแจ้ง ภายในตกแต่งเท่ ๆ เน้นโชว์โครงสร้าง โดยเฉพาะตรงโซนนั่งติดกระจกกับกราฟิตี้หน้าร้าน จัดเป็นมุมยอดฮิตที่หลายคนชอบมาถ่ายรูปกัน ในส่วนของเมนู เน้นไปที่กาแฟจากเมล็ดคัดสรรและเบรนด์อย่างพิถีพิถัน มีสโลว์บาร์ให้นั่งชิลกับกาแฟดริป และยังมีเมนูอื่นๆ สำหรับคนละเมียดเรื่องกาแฟ เช่น Dirty Latte, G22, Lemon Espresso ฯลฯ รวมทั้งเครื่องดื่มซิกเนเจอร์สูตรเฉพาะของทางร้านให้เลือกอีกหลายรายการ นอกจากนี้ยังมีเบเกอรี่โฮมเมดให้สั่งมาละเลียดคู่กันอีกด้วย ที่ตั้ง ถ.สุรินทร์ภักดี ต.ในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์

12.00 .

รับประทางหารกลางวันที่ ครัวบ้านสวน ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์

14.00 .

ถึง หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ฟังการบรรยายจากวิทยากรท้องถิ่น โดย นายประดิษฐ์ ศาลางาม ทำพิธีสักการะศาลปะกำเข้าชมศูนย์คชศึกษา นักท่องเที่ยวจะได้ชมนิทรรศการเป็นสถานที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมวิถีความเป็นอยู่ของชาวกูย (ส่วย) ซึ่งมีความผูกพันของคนในชุมชนและช้าง รวมทั้งประเพณี และวัฒนธรรมที่น่าชื่นชมอย่างใกล้ชิด ชาวบ้านตากลางแต่ละครัวเรือนจะมีช้างที่เลี้ยงไว้อาศัยอยู่รวมกัน จนช้างที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้เปรียบเสมือนเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของชาวบ้าน และเป็นศูนย์รวมของสมาชิกช้างในหมู่บ้านกระโพ นำนักท่องเที่ยวชมการแสดงช้าง นำนักท่องเที่ยวเดินชมภายในพิพิธภัณฑ์

15.00 .

จากนั้นเดินทางไปยัง โลกของช้าง เป็นศูนย์อนุรักษ์ช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีทั้งจัดแสดงเรื่องราวของช้าง เป็นแหล่งศึกษาข้อมูลทางวิชาการของช้าง และจะมีช้างอยู่ที่นี่มากที่สุดในโลก ภายในแบ่งออกเป็น 8 ส่วน สร้างจากอิฐโบราณ มีชื่อเรียกว่า หอคอยช้าง และมีพีรามิด ซึ่งให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมและถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกได้ 

16.00 .

ออกเดินทางไปจังหวัดศรีสะเกษ

18.00 .

ถึงจังหวัดศรีสะเกษ เข้าที่พัก แกลเลอรี่ ดีไซน์ โฮเทล (Gallery Design Hotel Sisaket) 1199 ถ.อุบล ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ทำภารกิจส่วนตัว

19.00 .

จากนั้นเดินทางไปถนนคนเดิน มารีหนองแคน เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัด ซึ่งทางหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษได้เริ่มโครงการย้ายถนนคนเดินจากที่อยู่เดิมตรงเส้นถนนตลาดโต้รุ่งใกล้กับบริเวณสถานีรถไฟศรีสะเกษมายังถนนเส้นหลังวิทยาลัยการอาชีพศรีสะเกษ ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่กว่าเดิมมาก อากาศปลอดโปร่ง เย็นสบาย ด้านหนึ่งอยู่ติดกับสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติมารีหนองแคน อีกด้านเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ 

20.30 .

เข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย

 

วันที่ 2 วัดป่าศรีมงคลรัตนาราม วัดสุพรรณหงส์ Cafe de Tree วัดพระธาตุเรืองรอง ตลาดยูเทิร์น 

08.00 .

ออกเดินทางไป วัดป่าศรีมงคลรัตนาราม ต.โคกจาน อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ

09.00 .

ถึง วัดป่าศรีมงคลรัตนาราม จุดดึงดูดที่ทำให้มีนักท่องเที่ยวและผู้มีจิตศรัทธาแวะเวียนมาทำบุญกันไม่ขาดสาย อยู่ที่ถ้ำพญานาคจำลองที่ทางวัดสร้างขึ้นจากพุทธประวัติที่ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเคยเสวยพระชาติเป็นพญานาค โดยภายในถ้ำทั้งดูขลังและน่าเลื่อมใส ตกแต่งด้วยซอกหลืบและหินงอกหินย้อย ประดับไฟหลากสี ราวกับอยู่ในถ้ำใต้บาดาล ตรงกลางประดิษฐานพระประธานองค์หยกขาว ล้อมรอบด้วยรูปปั้นนาคาธิบดีและพญานาคขนาดใหญ่ที่เลื้อยพันอยู่ตามผนังถ้ำ เหมือนคอยปกปักรักษาพระพุทธองค์ ฝีมืออ่อนช้อยงดงามมาก ส่วนด้านในยังมีวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปหยกขาวอีกองค์ ด้านหน้างดงามด้วยไม้แกะสลักจากเมียนมาร์ นอกจากนี้ภายในวัดยังเต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น มีสระน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถมานั่งพักให้อาหารปลา รวมทั้งมีอาหารและของกินเล่นจำหน่ายด้วย

10.00 .

ออกเดินทางไป วัดสุพรรณหงส์ บ้านหว้าน ต.น้ำคำ อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ

11.00 .

ถึง วัดสุพรรณหงส์ ความแปลกแตกต่างของวัดนี้จากวัดอื่นๆ ก็ตรงที่พระอุโบสถตั้งอยู่บนเรือสุพรรณหงส์จำลองขนาดใหญ่กลางสระน้ำโดยสร้างทางเดินข้ามจากฝั่งขนาบด้วยพญานาคขนาดใหญ่ระหว่างทางมีจุดให้แวะทำบุญเป็นระยะจนไปสุดทางที่องค์พระประธานซึ่งประดิษฐานอยู่ในศาลาไม้เคียงข้างด้วยรูปหล่อเหมือนของหลวงพ่อโตและหลวงพ่อทวดนอกจากนี้ยังมีทางเดินขึ้นไปบนพระอุโบสถทรงจตุรมุขด้านบนที่ประดิษฐานพระประธานอีกองค์ ส่วนหน้าพระอุโบสถยังมีบันไดให้เดินขึ้นไปบนแท่น เพื่อชมวิวมุมสูงได้อีกด้วย อิ่มใจกับการทำบุญแล้ว ริมสระน้ำยังจัดเป็นตลาดชุมชนที่ชาวบ้านนำสินค้าท้องถิ่น เช่น ข้าวหมาก ข้าวเหนียวกลอย ข้าวต้มมัด ผ้าทอมือ เครื่องจักสาน ฯลฯ มาจำหน่ายในราคากันเองกับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

12.00 .

รับประทางหารกลางวันที่ กี่ไก่ย่าง อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ ทั้งทีไม่ควรพลาดของกินขึ้นชื่อ นั่นคือ ไก่ย่างไม้มะดัน เอกลักษณ์อยู่ที่การใช้ไม้มะดันมาเสียบย่างไก่ ซึ่งมีที่มาจากไก่ย่างสถานีรถไฟห้วยทับทันเมื่อ 80 ปีมาแล้ว โดยใช้ไม้มะดันที่หาง่ายแถวนั้นมาเสียบไก่ย่าง บ้างก็ว่าไม้มะดันช่วยให้เนื้อไก่มีความหอมและรสชาติที่อร่อยยิ่งขึ้น สำหรับร้านนี้เนื้อไก่ย่างมาแห้งพอดี เกรียมได้ที่ กินกับน้ำจิ้มสูตรของทางร้านคู่ข้าวเหนียวร้อนๆ คืออร่อยมาก นอกจากนี้ยังมีเครื่องในไก่เสียบไม้มะดันให้เลือกด้วย ส่วนเมนูอาหารอีสานอื่นๆ ก็มีหลายอย่าง เช่น ลาบหมู ลาบเนื้อ ส้มตำปูปลาร้า แกงอ่อมเนื้อ ห่อหมกหมู ฯลฯ

13.00 .

จากนั้นออกเดินทางไป Cafe de Tree ถ.เทพา ต.เมืองเหนือ อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ

14.00 .

ถึง Cafe de Tree คาเฟ่และร้านอาหารบรรยากาศดีในเมืองศรีสะเกษ ภายในตกแต่งสไตล์วินเทจ เน้นโชว์โครงสร้างเท่ๆ ตัดด้วยต้นไม้จำลองที่ประดับตามตามผนังร้าน ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นอยู่ที่ตู้ปลาขนาดใหญ่เต็มไปด้วยปลาทะเลและปะการังหลากสี ที่ว่ายวนให้ดูเพลินๆ ร้านนี้มีทั้งเครื่องดื่ม เบเกอรี่ และอาหารจานหลักรสชาติดี เมนูอาหารมีทั้งสไตล์ตะวันตกและจานเดียว อย่างข้าวไก่ย่างหม่าล่า ลาซานญ่าแซลมอน พิซซ่าฮาวายเอี้ยน สเต็กหมูซอสพริกไทยดำ เป็นต้น ส่วนเครื่องดื่มก็มีทั้งกาแฟ ชา สมูทตี้ อิตาเลี่ยนโซดา บิงซู ไอศครีม เบเกอรี่หลากหลายทั้ง เค้กใบเตยมะพร้าวอ่อน เค้กฝอยทอง ชีสพาย ฯลฯ เรียกว่าจะมาชิลช่วงบ่าย หรือจะแวะมาสังสรรค์ช่วงเย็นก็ได้หมด

15.00 .

ออกเดินทางไป วัดบ้านสร้างเรืองหรือวัดพระธาตุเรืองรอง อยู่ภายในวัดบ้านสร้างเรือง อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ

15.30 .

ถึง วัดบ้านสร้างเรืองหรือวัดพระธาตุเรืองรอง อยู่ภายในวัดบ้านสร้างเรือง อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2525 เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุสำหรับให้ชาวพุทธ ลักษณะเป็นอาคารที่มีการผสมผสานศิลปะอีสานใต้ 4 เผ่า ได้แก่ ลาว ส่วย เขมร และเยอ มีความสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์อย่างลงตัว บนยอดพระธาตุมีจุดชมวิว ที่สามารถชมทิวทัศน์โดยรอบได้อย่างงดงาม

16.30 .

กลับที่พัก ทำภารกิจส่วนตัว

18.00 .

เดินทางไปตลาดยูเทิร์น ตลาดยูเทิร์นเปิดให้บริการทุกวันครับ ตั้งแต่เวลา 15:00 น. – 23:00 น. มีร้านเครื่องดื่มและอาหาร ร้านแนะนำร้านส้มตำและน้ำปั่นที่ตลาดนี้เด็ดทุกร้าน กินอิ่มแล้วก็ไปเดินช้อปให้ได้ย่อยอาหารกับร้านเสื้อผ้าเครื่องประดับ น้ำหอม ก็มีบริการ

21.00 .

เข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย

 

วันที่ 3 วัดล้านขวด จุดชมวิวผาพญากูปรี

08.00 .

เดินทางไปวัดล้านขวด บ้านดอน ต.โนนสูง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ

09.00 .

ถึง วัดล้านขวด หรือชื่อทางการคือ วัดป่ามหาเจดีย์แก้ว เป็นวัดที่สร้างด้วยแนวคิดที่สร้างสรรค์ โดยนำเอาวัสดุอย่างขวดแก้วกว่า 1.5 ล้านใบ รวมทั้งฝาขวด มาเป็นวัสดุก่อสร้างในแทบทุกสิ่งของวัดแห่งนี้ ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าวัด หอระฆัง โบสถ์ กุฏิ พระพุทธรูป ฯลฯ โดยแนวคิดนี้มาจากพระครูวิเวกธรรมาจารย์ หรือหลวงปู่ลอด ที่เห็นคุณค่าของขวดแก้วที่ถูกทิ้งในบริเวณวัดเป็นจำนวนมากและยังช่วยประหยัดค่าวัสดุก่อสร้างด้วย เมื่อเข้ามาจะตื่นตากับ สิมน้ำ หรืออุโบสถกลางน้ำที่สร้างขึ้นด้วยขวดทั้งหลัง ภายในประดิษฐานพระประธาน ที่น่าสนใจคือจิตรกรรมฝาผนังด้านหลังก็สร้างเป็นรูปแบบโมเสค โดยนำฝาขวดโลหะที่แวววาวมาต่อเป็นภาพเทวดาอย่างสวยงาม สิ่งก่อสร้างไม่ไกลกันคือองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ หรือศาลาฐานสโมสรเจดีย์แก้ว ก็ก่อสร้างด้วยขวดแก้วทั้งหมด รวมทั้งพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่เช่นกัน

10.00 .

จากนั้นเดินทางไป จุดชมวิวผาพญากูปรี ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ

11.00 .

ถึง จุดชมวิวผาพญากูปรี คุ้มค่าแก่การขับรถขึ้นเขาเพื่อมาให้ถึงจุดชมวิวที่น้อยคนจะรู้จักแห่งนี้ ด้วยวิวที่ตระการตาและประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ เมื่อมาถึงบริเวณด้านหน้าจุดชมวิวจะสะดุดตากับรูปปั้นกูปรีขนาดใหญ่ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวนที่เคยมีผู้พบเห็นในป่าบริเวณนี้ พร้อมกับสวนหินโบราณอายุนับร้อยล้านปีที่จัดเอาไว้อย่างสวยงาม เมื่อผ่านจุดนี้ไปจะได้ตื่นตากับวิวทิวทัศน์กว้างๆ จากริมหน้าผาสูง มองเห็นทั้งทิวเขาพนมดงรัก รวมทั้งต้นน้ำห้วยสำราญที่กั้นระหว่าง อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ กับอ.บัวเชด จ.สุรินทร์ได้สุดสายตา ซึ่งเป็นพื้นที่ไม่ไกลจากชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในยามพระอาทิตย์กำลังลับไปหลังทิวเขาจะยิ่งสวยงามมากเป็นพิเศษ ซึ่งในบริเวณจุดชมวิวก็มีทั้งระเบียงริมหน้าผา ทางเดินเลียบหน้าผา ร้านกาแฟ ศาลาชมวิวให้นั่งพัก นอกจากนี้ยังมีบันไดให้เดินลงไปชมภาพวาดพญากูปรี น้ำตก และสักการะพระพุทธรูปใต้หน้าผานี้อีกด้วย

12.00 .

รับประทานอาหารกลางวันที่ ร้านอาหารสีเขียว ร้านดังในเมืองศรีสะเกษที่มีเมนูขึ้นชื่อหลายอย่าง โดยเฉพาะแจ่วฮ้อนเนื้อสูตรต้นตำรับของป้าเขียว แต่หากไม่ได้มากินเมนูเด็ดนี้ก็ยังมีอาหารเมนูอื่นๆ ให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะอาหารไทยและอาหารอีสานซึ่งทางร้านคัดสรรวัตถุดิบมาปรุงเป็นอย่างดี เช่น แกงคั่วหอมขม น้ำพริกปลาทู แกงหน่อไม้ ตำถั่ว ไข่เจียวไข่มดแดง เป็นต้น ส่วนบรรยากาศร้านก็ดูโปร่ง สบายๆ เน้นโทนสีขาวแซมสีเขียว เหมาะมากินทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น ตั้งอยู่ที่

ถ.มหาราช อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ

13.00 .

เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

 

 

เดินทางโดย รถไฟ

                สามารถต่อรถโดยสารเพื่อเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดศรีสะเกษได้โดย 

                        1. รถมอเตอร์ไซต์รับจ้าง 

                        2. รถสามล้อ 

                        3. รถเเท็กซี่

                        4. รถตู้โดยสารประจำทาง

 

ตารางเวลาการเดินทางรถไฟจาก กรุงเทพฯ - สุรินทร์



ตารางเวลาการเดินทางรถไฟจาก สุรินทร์ กรุงเทพฯ



                             

เดินทางโดย เครื่องบิน

สามารถต่อรถโดยสารเพื่อเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดศรีสะเกษได้โดย 

                        1. รถเเท็กซี่

                        2. รถตู้โดยสารประจำทาง

 

 

ตารางเวลาการเดินทางเครื่องบินจาก กรุงเทพฯ บุรีรัมย์



ตารางเวลาการเดินทางเครื่องบินจาก กรุงเทพฯ - อุบลราชธานี

 


โดย นางสาวแอนนา ซก

นักศึกษาฝึกประสบการณ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์

คณะเทคโนโลยีการจัดการ สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม



 

 

 

 

 

 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น