รายการนำเที่ยว 3 วัน 2 คืน จังหวัดสุรินทร์ - ศรีสะเกษ
วันที่ 1 หมู่บ้านทอผ้าไหมมัดหมี่ ปราสาทศรีขรภูมิ Craft Café หมู่บ้านช้าง โลกของช้าง ถนนคนเดินมารีหนองแคน |
|
08.00 น. |
ออกเดินทางไป บ้านจารพัต ตำบลจารพัต อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ |
08.30 น. |
ถึงหมู่บ้านทอผ้าไหมมัดหมี่ที่เหมาะจะเข้ามาเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่กล้าคิดพลิกแพลงงานทอผ้าไหมให้ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
ภายในศูนย์เรียนรู้มีทั้งโชว์รูมผ้าไหมลวดลายต่างๆ
แขวนให้ชมและเลือกซื้อเต็มผนัง ส่วนด้านหลังเป็นโรงทอขนาดย่อมที่ชาวบ้านกำลังขมักเขม้นกับการทอผ้า
เส้นไหมนำไปย้อมด้วยไม้มงคล 9 ชนิด
มีทั้งแก่นขนุน แก่นมะขาม แก่นมะยม ดอกดาวเรือง ต้นคูณ ขมิ้น ต้นอร่าง ครั่ง
รวมทั้งหมักด้วยโคลนกอบัว เพื่อช่วยให้ผ้ามีสัมผัสนุ่มนวลยิ่งขึ้นโดยผ้าไหมที่ทอออกมาจะเกิดลวดลายจากการมัดตามจินตนาการและมีความหมายมงคล
อย่างลายดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบ ดอกคูณ ไปจนถึงฉากงานบวช หรือจะเป็นสีพื้น
สีเหลื่อม ก็มีให้เลือกในราคาไม่แพง |
09.30 น. |
จากนั้นเข้าชมปราสาทศรีขรภูมิ มาถึง อำเภอศรีขรภูมิ
ไม่ควรพลาดแวะมาชมความงดงามของโบราณสถานคู่เมืองแห่งนี้
องค์ปราสาทสันนิษฐานว่าสร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 17 เพื่อเป็นศาสนสถานในลัทธิไศวนิกาย สร้างเป็นหมู่ปรางค์ 5
องค์ แบบก่ออิฐไม่สอปูน ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงกว้าง 25 เมตร ยาว 26 เมตร และมีคูน้ำล้อมรอบ 3 ด้าน
ความโดดเด่นเป็นที่เลื่องลืออยู่ที่ปรางค์องค์ประธานประดับทับหลังที่มีความสวยงามและสมบูรณ์ที่สุดชิ้นหนึ่งของเมืองไทย
แกะสลักเป็นภาพพระศิวนาฏราชสิบกร ทรงฟ้อนรำอยู่เหนือเกียรติมุข
ภายใต้วงโค้งลายท่อนมาลัย ซึ่งสลักเป็นภาพพระคเณศ พระพรหม พระวิษณุ และพระอุมา
ส่วนบริเวณเสากรอบประตูสลักเป็นรูปนางอัปสรถือดอกบัวและทวารบาลยืนกุมกระบอง
ซึ่งคล้ายกับนางอัปสราที่ปราสาทนครวัด
โดยเป็นรูปแบบที่ไม่พบในปราสาทหินที่อื่นในไทยเลย
พบที่ปราสาทศีขรภูมิเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ที่ตั้ง ต.ระแงง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ |
10.30 น. |
ออกเดินทางจากปราสาทศรีขรภูมิไป Craft Café |
11.00 น. |
ถึง Craft Café
คาเฟ่ในบ้านบรรยากาศอบอุ่นกลางเมืองสุรินทร์
มีทั้งโซนนั่งด้านในห้องแอร์ และสวนกลางแจ้ง ภายในตกแต่งเท่ ๆ เน้นโชว์โครงสร้าง
โดยเฉพาะตรงโซนนั่งติดกระจกกับกราฟิตี้หน้าร้าน จัดเป็นมุมยอดฮิตที่หลายคนชอบมาถ่ายรูปกัน
ในส่วนของเมนู เน้นไปที่กาแฟจากเมล็ดคัดสรรและเบรนด์อย่างพิถีพิถัน
มีสโลว์บาร์ให้นั่งชิลกับกาแฟดริป และยังมีเมนูอื่นๆ สำหรับคนละเมียดเรื่องกาแฟ
เช่น Dirty Latte, G22, Lemon Espresso ฯลฯ รวมทั้งเครื่องดื่มซิกเนเจอร์สูตรเฉพาะของทางร้านให้เลือกอีกหลายรายการ
นอกจากนี้ยังมีเบเกอรี่โฮมเมดให้สั่งมาละเลียดคู่กันอีกด้วย ที่ตั้ง ถ.สุรินทร์ภักดี ต.ในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ |
12.00 น. |
รับประทางหารกลางวันที่
ครัวบ้านสวน ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ |
14.00 น. |
ถึง หมู่บ้านช้าง
บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์
ฟังการบรรยายจากวิทยากรท้องถิ่น โดย นายประดิษฐ์ ศาลางาม
ทำพิธีสักการะศาลปะกำเข้าชมศูนย์คชศึกษา
นักท่องเที่ยวจะได้ชมนิทรรศการเป็นสถานที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมวิถีความเป็นอยู่ของชาวกูย
(ส่วย) ซึ่งมีความผูกพันของคนในชุมชนและช้าง รวมทั้งประเพณี
และวัฒนธรรมที่น่าชื่นชมอย่างใกล้ชิด
ชาวบ้านตากลางแต่ละครัวเรือนจะมีช้างที่เลี้ยงไว้อาศัยอยู่รวมกัน
จนช้างที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้เปรียบเสมือนเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของชาวบ้าน
และเป็นศูนย์รวมของสมาชิกช้างในหมู่บ้านกระโพ นำนักท่องเที่ยวชมการแสดงช้าง
นำนักท่องเที่ยวเดินชมภายในพิพิธภัณฑ์ |
15.00 น. |
จากนั้นเดินทางไปยัง
โลกของช้าง เป็นศูนย์อนุรักษ์ช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก
มีทั้งจัดแสดงเรื่องราวของช้าง เป็นแหล่งศึกษาข้อมูลทางวิชาการของช้าง
และจะมีช้างอยู่ที่นี่มากที่สุดในโลก ภายในแบ่งออกเป็น 8 ส่วน สร้างจากอิฐโบราณ
มีชื่อเรียกว่า หอคอยช้าง และมีพีรามิด ซึ่งให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมและถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกได้ |
16.00 น. |
ออกเดินทางไปจังหวัดศรีสะเกษ
|
18.00 น. |
ถึงจังหวัดศรีสะเกษ
เข้าที่พัก แกลเลอรี่ ดีไซน์ โฮเทล (Gallery Design Hotel Sisaket) 1199 ถ.อุบล ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ
ทำภารกิจส่วนตัว |
19.00 น. |
จากนั้นเดินทางไปถนนคนเดิน
มารีหนองแคน เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัด
ซึ่งทางหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษได้เริ่มโครงการย้ายถนนคนเดินจากที่อยู่เดิมตรงเส้นถนนตลาดโต้รุ่งใกล้กับบริเวณสถานีรถไฟศรีสะเกษมายังถนนเส้นหลังวิทยาลัยการอาชีพศรีสะเกษ ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่กว่าเดิมมาก อากาศปลอดโปร่ง
เย็นสบาย ด้านหนึ่งอยู่ติดกับสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติมารีหนองแคน
อีกด้านเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ |
20.30 น. |
เข้าที่พัก
พักผ่อนตามอัธยาศัย |
วันที่ 2 วัดป่าศรีมงคลรัตนาราม
วัดสุพรรณหงส์ Cafe de Tree วัดพระธาตุเรืองรอง
ตลาดยูเทิร์น |
|
08.00 น. |
ออกเดินทางไป
วัดป่าศรีมงคลรัตนาราม ต.โคกจาน อ.อุทุมพรพิสัย
จ.ศรีสะเกษ |
09.00 น. |
ถึง วัดป่าศรีมงคลรัตนาราม จุดดึงดูดที่ทำให้มีนักท่องเที่ยวและผู้มีจิตศรัทธาแวะเวียนมาทำบุญกันไม่ขาดสาย
อยู่ที่ถ้ำพญานาคจำลองที่ทางวัดสร้างขึ้นจากพุทธประวัติที่ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเคยเสวยพระชาติเป็นพญานาค
โดยภายในถ้ำทั้งดูขลังและน่าเลื่อมใส ตกแต่งด้วยซอกหลืบและหินงอกหินย้อย ประดับไฟหลากสี
ราวกับอยู่ในถ้ำใต้บาดาล ตรงกลางประดิษฐานพระประธานองค์หยกขาว
ล้อมรอบด้วยรูปปั้นนาคาธิบดีและพญานาคขนาดใหญ่ที่เลื้อยพันอยู่ตามผนังถ้ำ
เหมือนคอยปกปักรักษาพระพุทธองค์ ฝีมืออ่อนช้อยงดงามมาก
ส่วนด้านในยังมีวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปหยกขาวอีกองค์ ด้านหน้างดงามด้วยไม้แกะสลักจากเมียนมาร์
นอกจากนี้ภายในวัดยังเต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น
มีสระน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถมานั่งพักให้อาหารปลา
รวมทั้งมีอาหารและของกินเล่นจำหน่ายด้วย |
10.00 น. |
ออกเดินทางไป วัดสุพรรณหงส์ บ้านหว้าน ต.น้ำคำ
อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ |
11.00 น. |
ถึง วัดสุพรรณหงส์ ความแปลกแตกต่างของวัดนี้จากวัดอื่นๆ
ก็ตรงที่พระอุโบสถตั้งอยู่บนเรือสุพรรณหงส์จำลองขนาดใหญ่กลางสระน้ำโดยสร้างทางเดินข้ามจากฝั่งขนาบด้วยพญานาคขนาดใหญ่ระหว่างทางมีจุดให้แวะทำบุญเป็นระยะจนไปสุดทางที่องค์พระประธานซึ่งประดิษฐานอยู่ในศาลาไม้เคียงข้างด้วยรูปหล่อเหมือนของหลวงพ่อโตและหลวงพ่อทวดนอกจากนี้ยังมีทางเดินขึ้นไปบนพระอุโบสถทรงจตุรมุขด้านบนที่ประดิษฐานพระประธานอีกองค์
ส่วนหน้าพระอุโบสถยังมีบันไดให้เดินขึ้นไปบนแท่น เพื่อชมวิวมุมสูงได้อีกด้วย
อิ่มใจกับการทำบุญแล้ว ริมสระน้ำยังจัดเป็นตลาดชุมชนที่ชาวบ้านนำสินค้าท้องถิ่น
เช่น ข้าวหมาก ข้าวเหนียวกลอย ข้าวต้มมัด ผ้าทอมือ เครื่องจักสาน ฯลฯ
มาจำหน่ายในราคากันเองกับนักท่องเที่ยวอีกด้วย |
12.00 น. |
รับประทางหารกลางวันที่
กี่ไก่ย่าง อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ
ทั้งทีไม่ควรพลาดของกินขึ้นชื่อ นั่นคือ ไก่ย่างไม้มะดัน
เอกลักษณ์อยู่ที่การใช้ไม้มะดันมาเสียบย่างไก่
ซึ่งมีที่มาจากไก่ย่างสถานีรถไฟห้วยทับทันเมื่อ 80 ปีมาแล้ว โดยใช้ไม้มะดันที่หาง่ายแถวนั้นมาเสียบไก่ย่าง
บ้างก็ว่าไม้มะดันช่วยให้เนื้อไก่มีความหอมและรสชาติที่อร่อยยิ่งขึ้น
สำหรับร้านนี้เนื้อไก่ย่างมาแห้งพอดี เกรียมได้ที่
กินกับน้ำจิ้มสูตรของทางร้านคู่ข้าวเหนียวร้อนๆ คืออร่อยมาก
นอกจากนี้ยังมีเครื่องในไก่เสียบไม้มะดันให้เลือกด้วย ส่วนเมนูอาหารอีสานอื่นๆ
ก็มีหลายอย่าง เช่น ลาบหมู ลาบเนื้อ ส้มตำปูปลาร้า แกงอ่อมเนื้อ ห่อหมกหมู ฯลฯ |
13.00 น. |
จากนั้นออกเดินทางไป Cafe de Tree ถ.เทพา ต.เมืองเหนือ อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ |
14.00 น. |
ถึง Cafe de Tree
คาเฟ่และร้านอาหารบรรยากาศดีในเมืองศรีสะเกษ
ภายในตกแต่งสไตล์วินเทจ เน้นโชว์โครงสร้างเท่ๆ ตัดด้วยต้นไม้จำลองที่ประดับตามตามผนังร้าน
ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ
นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นอยู่ที่ตู้ปลาขนาดใหญ่เต็มไปด้วยปลาทะเลและปะการังหลากสี
ที่ว่ายวนให้ดูเพลินๆ ร้านนี้มีทั้งเครื่องดื่ม เบเกอรี่
และอาหารจานหลักรสชาติดี เมนูอาหารมีทั้งสไตล์ตะวันตกและจานเดียว
อย่างข้าวไก่ย่างหม่าล่า ลาซานญ่าแซลมอน พิซซ่าฮาวายเอี้ยน สเต็กหมูซอสพริกไทยดำ
เป็นต้น ส่วนเครื่องดื่มก็มีทั้งกาแฟ ชา สมูทตี้ อิตาเลี่ยนโซดา บิงซู ไอศครีม
เบเกอรี่หลากหลายทั้ง เค้กใบเตยมะพร้าวอ่อน เค้กฝอยทอง ชีสพาย ฯลฯ
เรียกว่าจะมาชิลช่วงบ่าย หรือจะแวะมาสังสรรค์ช่วงเย็นก็ได้หมด |
15.00 น. |
ออกเดินทางไป
วัดบ้านสร้างเรืองหรือวัดพระธาตุเรืองรอง
อยู่ภายในวัดบ้านสร้างเรือง อำเภอเมือง
จังหวัดศรีสะเกษ |
15.30 น. |
ถึง วัดบ้านสร้างเรืองหรือวัดพระธาตุเรืองรอง อยู่ภายในวัดบ้านสร้างเรือง อำเภอเมือง
จังหวัดศรีสะเกษ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2525 เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุสำหรับให้ชาวพุทธ
ลักษณะเป็นอาคารที่มีการผสมผสานศิลปะอีสานใต้ 4 เผ่า
ได้แก่ ลาว ส่วย เขมร และเยอ มีความสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์อย่างลงตัว
บนยอดพระธาตุมีจุดชมวิว ที่สามารถชมทิวทัศน์โดยรอบได้อย่างงดงาม |
16.30 น. |
กลับที่พัก
ทำภารกิจส่วนตัว |
18.00 น. |
เดินทางไปตลาดยูเทิร์น ตลาดยูเทิร์นเปิดให้บริการทุกวันครับ ตั้งแต่เวลา 15:00 น. – 23:00 น. มีร้านเครื่องดื่มและอาหาร ร้านแนะนำร้านส้มตำและน้ำปั่นที่ตลาดนี้เด็ดทุกร้าน กินอิ่มแล้วก็ไปเดินช้อปให้ได้ย่อยอาหารกับร้านเสื้อผ้าเครื่องประดับ น้ำหอม ก็มีบริการ |
21.00 น. |
เข้าที่พัก
พักผ่อนตามอัธยาศัย |
วันที่
3 วัดล้านขวด จุดชมวิวผาพญากูปรี |
|
08.00 น. |
เดินทางไปวัดล้านขวด บ้านดอน ต.โนนสูง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ |
09.00 น. |
ถึง วัดล้านขวด หรือชื่อทางการคือ
วัดป่ามหาเจดีย์แก้ว เป็นวัดที่สร้างด้วยแนวคิดที่สร้างสรรค์
โดยนำเอาวัสดุอย่างขวดแก้วกว่า 1.5 ล้านใบ
รวมทั้งฝาขวด มาเป็นวัสดุก่อสร้างในแทบทุกสิ่งของวัดแห่งนี้
ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าวัด หอระฆัง โบสถ์ กุฏิ พระพุทธรูป ฯลฯ
โดยแนวคิดนี้มาจากพระครูวิเวกธรรมาจารย์ หรือหลวงปู่ลอด
ที่เห็นคุณค่าของขวดแก้วที่ถูกทิ้งในบริเวณวัดเป็นจำนวนมากและยังช่วยประหยัดค่าวัสดุก่อสร้างด้วย เมื่อเข้ามาจะตื่นตากับ สิมน้ำ
หรืออุโบสถกลางน้ำที่สร้างขึ้นด้วยขวดทั้งหลัง ภายในประดิษฐานพระประธาน
ที่น่าสนใจคือจิตรกรรมฝาผนังด้านหลังก็สร้างเป็นรูปแบบโมเสค
โดยนำฝาขวดโลหะที่แวววาวมาต่อเป็นภาพเทวดาอย่างสวยงาม
สิ่งก่อสร้างไม่ไกลกันคือองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ หรือศาลาฐานสโมสรเจดีย์แก้ว
ก็ก่อสร้างด้วยขวดแก้วทั้งหมด รวมทั้งพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่เช่นกัน |
10.00 น. |
จากนั้นเดินทางไป จุดชมวิวผาพญากูปรี ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ |
11.00 น. |
ถึง จุดชมวิวผาพญากูปรี คุ้มค่าแก่การขับรถขึ้นเขาเพื่อมาให้ถึงจุดชมวิวที่น้อยคนจะรู้จักแห่งนี้
ด้วยวิวที่ตระการตาและประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ
เมื่อมาถึงบริเวณด้านหน้าจุดชมวิวจะสะดุดตากับรูปปั้นกูปรีขนาดใหญ่ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวนที่เคยมีผู้พบเห็นในป่าบริเวณนี้
พร้อมกับสวนหินโบราณอายุนับร้อยล้านปีที่จัดเอาไว้อย่างสวยงาม
เมื่อผ่านจุดนี้ไปจะได้ตื่นตากับวิวทิวทัศน์กว้างๆ จากริมหน้าผาสูง
มองเห็นทั้งทิวเขาพนมดงรัก รวมทั้งต้นน้ำห้วยสำราญที่กั้นระหว่าง อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ
กับอ.บัวเชด จ.สุรินทร์ได้สุดสายตา ซึ่งเป็นพื้นที่ไม่ไกลจากชายแดนไทย-กัมพูชา
โดยเฉพาะในยามพระอาทิตย์กำลังลับไปหลังทิวเขาจะยิ่งสวยงามมากเป็นพิเศษ
ซึ่งในบริเวณจุดชมวิวก็มีทั้งระเบียงริมหน้าผา ทางเดินเลียบหน้าผา ร้านกาแฟ
ศาลาชมวิวให้นั่งพัก นอกจากนี้ยังมีบันไดให้เดินลงไปชมภาพวาดพญากูปรี น้ำตก
และสักการะพระพุทธรูปใต้หน้าผานี้อีกด้วย |
12.00 น. |
รับประทานอาหารกลางวันที่ ร้านอาหารสีเขียว ร้านดังในเมืองศรีสะเกษที่มีเมนูขึ้นชื่อหลายอย่าง
โดยเฉพาะแจ่วฮ้อนเนื้อสูตรต้นตำรับของป้าเขียว แต่หากไม่ได้มากินเมนูเด็ดนี้ก็ยังมีอาหารเมนูอื่นๆ
ให้เลือกมากมาย
โดยเฉพาะอาหารไทยและอาหารอีสานซึ่งทางร้านคัดสรรวัตถุดิบมาปรุงเป็นอย่างดี เช่น
แกงคั่วหอมขม น้ำพริกปลาทู แกงหน่อไม้ ตำถั่ว ไข่เจียวไข่มดแดง เป็นต้น
ส่วนบรรยากาศร้านก็ดูโปร่ง สบายๆ เน้นโทนสีขาวแซมสีเขียว
เหมาะมากินทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น ตั้งอยู่ที่ ถ.มหาราช
อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ |
13.00 น. |
เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ |
เดินทางโดย รถไฟ
สามารถต่อรถโดยสารเพื่อเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดศรีสะเกษได้โดย
1. รถมอเตอร์ไซต์รับจ้าง
2. รถสามล้อ
3. รถเเท็กซี่
4. รถตู้โดยสารประจำทาง
ตารางเวลาการเดินทางรถไฟจาก
กรุงเทพฯ - สุรินทร์
ตารางเวลาการเดินทางรถไฟจาก
สุรินทร์ – กรุงเทพฯ
เดินทางโดย เครื่องบิน
สามารถต่อรถโดยสารเพื่อเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดศรีสะเกษได้โดย
1. รถเเท็กซี่
2. รถตู้โดยสารประจำทาง
ตารางเวลาการเดินทางเครื่องบินจาก
กรุงเทพฯ – บุรีรัมย์
ตารางเวลาการเดินทางเครื่องบินจาก กรุงเทพฯ - อุบลราชธานี
โดย นางสาวแอนนา ซก
นักศึกษาฝึกประสบการณ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์
คณะเทคโนโลยีการจัดการ สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น