วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2563

รายการนำเที่ยว 3 วัน 2 คืน จังหวัดสุรินทร์ - ศรีสะเกษ


 

วันที่ 1 หมู่บ้านทอผ้าไหมมัดหมี่ ปราสาทศรีขรภูมิ Craft Café หมู่บ้านช้าง โลกของช้าง ถนนคนเดินมารีหนองแคน

08.00 .

ออกเดินทางไป บ้านจารพัต ตำบลจารพัต อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์

08.30 .

ถึงหมู่บ้านทอผ้าไหมมัดหมี่ที่เหมาะจะเข้ามาเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่กล้าคิดพลิกแพลงงานทอผ้าไหมให้ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ภายในศูนย์เรียนรู้มีทั้งโชว์รูมผ้าไหมลวดลายต่างๆ แขวนให้ชมและเลือกซื้อเต็มผนัง ส่วนด้านหลังเป็นโรงทอขนาดย่อมที่ชาวบ้านกำลังขมักเขม้นกับการทอผ้า เส้นไหมนำไปย้อมด้วยไม้มงคล 9 ชนิด มีทั้งแก่นขนุน แก่นมะขาม แก่นมะยม ดอกดาวเรือง ต้นคูณ ขมิ้น ต้นอร่าง ครั่ง รวมทั้งหมักด้วยโคลนกอบัว เพื่อช่วยให้ผ้ามีสัมผัสนุ่มนวลยิ่งขึ้นโดยผ้าไหมที่ทอออกมาจะเกิดลวดลายจากการมัดตามจินตนาการและมีความหมายมงคล อย่างลายดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบ ดอกคูณ ไปจนถึงฉากงานบวช หรือจะเป็นสีพื้น สีเหลื่อม ก็มีให้เลือกในราคาไม่แพง

 

09.30 .

จากนั้นเข้าชมปราสาทศรีขรภูมิ มาถึง อำเภอศรีขรภูมิ ไม่ควรพลาดแวะมาชมความงดงามของโบราณสถานคู่เมืองแห่งนี้ องค์ปราสาทสันนิษฐานว่าสร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 17 เพื่อเป็นศาสนสถานในลัทธิไศวนิกาย สร้างเป็นหมู่ปรางค์ 5 องค์ แบบก่ออิฐไม่สอปูน ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงกว้าง 25 เมตร ยาว 26 เมตร และมีคูน้ำล้อมรอบ 3 ด้าน ความโดดเด่นเป็นที่เลื่องลืออยู่ที่ปรางค์องค์ประธานประดับทับหลังที่มีความสวยงามและสมบูรณ์ที่สุดชิ้นหนึ่งของเมืองไทย แกะสลักเป็นภาพพระศิวนาฏราชสิบกร ทรงฟ้อนรำอยู่เหนือเกียรติมุข ภายใต้วงโค้งลายท่อนมาลัย ซึ่งสลักเป็นภาพพระคเณศ พระพรหม พระวิษณุ และพระอุมา ส่วนบริเวณเสากรอบประตูสลักเป็นรูปนางอัปสรถือดอกบัวและทวารบาลยืนกุมกระบอง ซึ่งคล้ายกับนางอัปสราที่ปราสาทนครวัด โดยเป็นรูปแบบที่ไม่พบในปราสาทหินที่อื่นในไทยเลย พบที่ปราสาทศีขรภูมิเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ที่ตั้ง ต.ระแงง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์

10.30 .

ออกเดินทางจากปราสาทศรีขรภูมิไป Craft Café

11.00 .

ถึง Craft Café คาเฟ่ในบ้านบรรยากาศอบอุ่นกลางเมืองสุรินทร์ มีทั้งโซนนั่งด้านในห้องแอร์ และสวนกลางแจ้ง ภายในตกแต่งเท่ ๆ เน้นโชว์โครงสร้าง โดยเฉพาะตรงโซนนั่งติดกระจกกับกราฟิตี้หน้าร้าน จัดเป็นมุมยอดฮิตที่หลายคนชอบมาถ่ายรูปกัน ในส่วนของเมนู เน้นไปที่กาแฟจากเมล็ดคัดสรรและเบรนด์อย่างพิถีพิถัน มีสโลว์บาร์ให้นั่งชิลกับกาแฟดริป และยังมีเมนูอื่นๆ สำหรับคนละเมียดเรื่องกาแฟ เช่น Dirty Latte, G22, Lemon Espresso ฯลฯ รวมทั้งเครื่องดื่มซิกเนเจอร์สูตรเฉพาะของทางร้านให้เลือกอีกหลายรายการ นอกจากนี้ยังมีเบเกอรี่โฮมเมดให้สั่งมาละเลียดคู่กันอีกด้วย ที่ตั้ง ถ.สุรินทร์ภักดี ต.ในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์

12.00 .

รับประทางหารกลางวันที่ ครัวบ้านสวน ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์

14.00 .

ถึง หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ฟังการบรรยายจากวิทยากรท้องถิ่น โดย นายประดิษฐ์ ศาลางาม ทำพิธีสักการะศาลปะกำเข้าชมศูนย์คชศึกษา นักท่องเที่ยวจะได้ชมนิทรรศการเป็นสถานที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมวิถีความเป็นอยู่ของชาวกูย (ส่วย) ซึ่งมีความผูกพันของคนในชุมชนและช้าง รวมทั้งประเพณี และวัฒนธรรมที่น่าชื่นชมอย่างใกล้ชิด ชาวบ้านตากลางแต่ละครัวเรือนจะมีช้างที่เลี้ยงไว้อาศัยอยู่รวมกัน จนช้างที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้เปรียบเสมือนเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของชาวบ้าน และเป็นศูนย์รวมของสมาชิกช้างในหมู่บ้านกระโพ นำนักท่องเที่ยวชมการแสดงช้าง นำนักท่องเที่ยวเดินชมภายในพิพิธภัณฑ์

15.00 .

จากนั้นเดินทางไปยัง โลกของช้าง เป็นศูนย์อนุรักษ์ช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีทั้งจัดแสดงเรื่องราวของช้าง เป็นแหล่งศึกษาข้อมูลทางวิชาการของช้าง และจะมีช้างอยู่ที่นี่มากที่สุดในโลก ภายในแบ่งออกเป็น 8 ส่วน สร้างจากอิฐโบราณ มีชื่อเรียกว่า หอคอยช้าง และมีพีรามิด ซึ่งให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมและถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกได้ 

16.00 .

ออกเดินทางไปจังหวัดศรีสะเกษ

18.00 .

ถึงจังหวัดศรีสะเกษ เข้าที่พัก แกลเลอรี่ ดีไซน์ โฮเทล (Gallery Design Hotel Sisaket) 1199 ถ.อุบล ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ทำภารกิจส่วนตัว

19.00 .

จากนั้นเดินทางไปถนนคนเดิน มารีหนองแคน เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัด ซึ่งทางหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษได้เริ่มโครงการย้ายถนนคนเดินจากที่อยู่เดิมตรงเส้นถนนตลาดโต้รุ่งใกล้กับบริเวณสถานีรถไฟศรีสะเกษมายังถนนเส้นหลังวิทยาลัยการอาชีพศรีสะเกษ ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่กว่าเดิมมาก อากาศปลอดโปร่ง เย็นสบาย ด้านหนึ่งอยู่ติดกับสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติมารีหนองแคน อีกด้านเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ 

20.30 .

เข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย

 

วันที่ 2 วัดป่าศรีมงคลรัตนาราม วัดสุพรรณหงส์ Cafe de Tree วัดพระธาตุเรืองรอง ตลาดยูเทิร์น 

08.00 .

ออกเดินทางไป วัดป่าศรีมงคลรัตนาราม ต.โคกจาน อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ

09.00 .

ถึง วัดป่าศรีมงคลรัตนาราม จุดดึงดูดที่ทำให้มีนักท่องเที่ยวและผู้มีจิตศรัทธาแวะเวียนมาทำบุญกันไม่ขาดสาย อยู่ที่ถ้ำพญานาคจำลองที่ทางวัดสร้างขึ้นจากพุทธประวัติที่ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเคยเสวยพระชาติเป็นพญานาค โดยภายในถ้ำทั้งดูขลังและน่าเลื่อมใส ตกแต่งด้วยซอกหลืบและหินงอกหินย้อย ประดับไฟหลากสี ราวกับอยู่ในถ้ำใต้บาดาล ตรงกลางประดิษฐานพระประธานองค์หยกขาว ล้อมรอบด้วยรูปปั้นนาคาธิบดีและพญานาคขนาดใหญ่ที่เลื้อยพันอยู่ตามผนังถ้ำ เหมือนคอยปกปักรักษาพระพุทธองค์ ฝีมืออ่อนช้อยงดงามมาก ส่วนด้านในยังมีวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปหยกขาวอีกองค์ ด้านหน้างดงามด้วยไม้แกะสลักจากเมียนมาร์ นอกจากนี้ภายในวัดยังเต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น มีสระน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถมานั่งพักให้อาหารปลา รวมทั้งมีอาหารและของกินเล่นจำหน่ายด้วย

10.00 .

ออกเดินทางไป วัดสุพรรณหงส์ บ้านหว้าน ต.น้ำคำ อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ

11.00 .

ถึง วัดสุพรรณหงส์ ความแปลกแตกต่างของวัดนี้จากวัดอื่นๆ ก็ตรงที่พระอุโบสถตั้งอยู่บนเรือสุพรรณหงส์จำลองขนาดใหญ่กลางสระน้ำโดยสร้างทางเดินข้ามจากฝั่งขนาบด้วยพญานาคขนาดใหญ่ระหว่างทางมีจุดให้แวะทำบุญเป็นระยะจนไปสุดทางที่องค์พระประธานซึ่งประดิษฐานอยู่ในศาลาไม้เคียงข้างด้วยรูปหล่อเหมือนของหลวงพ่อโตและหลวงพ่อทวดนอกจากนี้ยังมีทางเดินขึ้นไปบนพระอุโบสถทรงจตุรมุขด้านบนที่ประดิษฐานพระประธานอีกองค์ ส่วนหน้าพระอุโบสถยังมีบันไดให้เดินขึ้นไปบนแท่น เพื่อชมวิวมุมสูงได้อีกด้วย อิ่มใจกับการทำบุญแล้ว ริมสระน้ำยังจัดเป็นตลาดชุมชนที่ชาวบ้านนำสินค้าท้องถิ่น เช่น ข้าวหมาก ข้าวเหนียวกลอย ข้าวต้มมัด ผ้าทอมือ เครื่องจักสาน ฯลฯ มาจำหน่ายในราคากันเองกับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

12.00 .

รับประทางหารกลางวันที่ กี่ไก่ย่าง อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ ทั้งทีไม่ควรพลาดของกินขึ้นชื่อ นั่นคือ ไก่ย่างไม้มะดัน เอกลักษณ์อยู่ที่การใช้ไม้มะดันมาเสียบย่างไก่ ซึ่งมีที่มาจากไก่ย่างสถานีรถไฟห้วยทับทันเมื่อ 80 ปีมาแล้ว โดยใช้ไม้มะดันที่หาง่ายแถวนั้นมาเสียบไก่ย่าง บ้างก็ว่าไม้มะดันช่วยให้เนื้อไก่มีความหอมและรสชาติที่อร่อยยิ่งขึ้น สำหรับร้านนี้เนื้อไก่ย่างมาแห้งพอดี เกรียมได้ที่ กินกับน้ำจิ้มสูตรของทางร้านคู่ข้าวเหนียวร้อนๆ คืออร่อยมาก นอกจากนี้ยังมีเครื่องในไก่เสียบไม้มะดันให้เลือกด้วย ส่วนเมนูอาหารอีสานอื่นๆ ก็มีหลายอย่าง เช่น ลาบหมู ลาบเนื้อ ส้มตำปูปลาร้า แกงอ่อมเนื้อ ห่อหมกหมู ฯลฯ

13.00 .

จากนั้นออกเดินทางไป Cafe de Tree ถ.เทพา ต.เมืองเหนือ อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ

14.00 .

ถึง Cafe de Tree คาเฟ่และร้านอาหารบรรยากาศดีในเมืองศรีสะเกษ ภายในตกแต่งสไตล์วินเทจ เน้นโชว์โครงสร้างเท่ๆ ตัดด้วยต้นไม้จำลองที่ประดับตามตามผนังร้าน ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นอยู่ที่ตู้ปลาขนาดใหญ่เต็มไปด้วยปลาทะเลและปะการังหลากสี ที่ว่ายวนให้ดูเพลินๆ ร้านนี้มีทั้งเครื่องดื่ม เบเกอรี่ และอาหารจานหลักรสชาติดี เมนูอาหารมีทั้งสไตล์ตะวันตกและจานเดียว อย่างข้าวไก่ย่างหม่าล่า ลาซานญ่าแซลมอน พิซซ่าฮาวายเอี้ยน สเต็กหมูซอสพริกไทยดำ เป็นต้น ส่วนเครื่องดื่มก็มีทั้งกาแฟ ชา สมูทตี้ อิตาเลี่ยนโซดา บิงซู ไอศครีม เบเกอรี่หลากหลายทั้ง เค้กใบเตยมะพร้าวอ่อน เค้กฝอยทอง ชีสพาย ฯลฯ เรียกว่าจะมาชิลช่วงบ่าย หรือจะแวะมาสังสรรค์ช่วงเย็นก็ได้หมด

15.00 .

ออกเดินทางไป วัดบ้านสร้างเรืองหรือวัดพระธาตุเรืองรอง อยู่ภายในวัดบ้านสร้างเรือง อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ

15.30 .

ถึง วัดบ้านสร้างเรืองหรือวัดพระธาตุเรืองรอง อยู่ภายในวัดบ้านสร้างเรือง อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2525 เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุสำหรับให้ชาวพุทธ ลักษณะเป็นอาคารที่มีการผสมผสานศิลปะอีสานใต้ 4 เผ่า ได้แก่ ลาว ส่วย เขมร และเยอ มีความสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์อย่างลงตัว บนยอดพระธาตุมีจุดชมวิว ที่สามารถชมทิวทัศน์โดยรอบได้อย่างงดงาม

16.30 .

กลับที่พัก ทำภารกิจส่วนตัว

18.00 .

เดินทางไปตลาดยูเทิร์น ตลาดยูเทิร์นเปิดให้บริการทุกวันครับ ตั้งแต่เวลา 15:00 น. – 23:00 น. มีร้านเครื่องดื่มและอาหาร ร้านแนะนำร้านส้มตำและน้ำปั่นที่ตลาดนี้เด็ดทุกร้าน กินอิ่มแล้วก็ไปเดินช้อปให้ได้ย่อยอาหารกับร้านเสื้อผ้าเครื่องประดับ น้ำหอม ก็มีบริการ

21.00 .

เข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย

 

วันที่ 3 วัดล้านขวด จุดชมวิวผาพญากูปรี

08.00 .

เดินทางไปวัดล้านขวด บ้านดอน ต.โนนสูง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ

09.00 .

ถึง วัดล้านขวด หรือชื่อทางการคือ วัดป่ามหาเจดีย์แก้ว เป็นวัดที่สร้างด้วยแนวคิดที่สร้างสรรค์ โดยนำเอาวัสดุอย่างขวดแก้วกว่า 1.5 ล้านใบ รวมทั้งฝาขวด มาเป็นวัสดุก่อสร้างในแทบทุกสิ่งของวัดแห่งนี้ ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าวัด หอระฆัง โบสถ์ กุฏิ พระพุทธรูป ฯลฯ โดยแนวคิดนี้มาจากพระครูวิเวกธรรมาจารย์ หรือหลวงปู่ลอด ที่เห็นคุณค่าของขวดแก้วที่ถูกทิ้งในบริเวณวัดเป็นจำนวนมากและยังช่วยประหยัดค่าวัสดุก่อสร้างด้วย เมื่อเข้ามาจะตื่นตากับ สิมน้ำ หรืออุโบสถกลางน้ำที่สร้างขึ้นด้วยขวดทั้งหลัง ภายในประดิษฐานพระประธาน ที่น่าสนใจคือจิตรกรรมฝาผนังด้านหลังก็สร้างเป็นรูปแบบโมเสค โดยนำฝาขวดโลหะที่แวววาวมาต่อเป็นภาพเทวดาอย่างสวยงาม สิ่งก่อสร้างไม่ไกลกันคือองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ หรือศาลาฐานสโมสรเจดีย์แก้ว ก็ก่อสร้างด้วยขวดแก้วทั้งหมด รวมทั้งพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่เช่นกัน

10.00 .

จากนั้นเดินทางไป จุดชมวิวผาพญากูปรี ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ

11.00 .

ถึง จุดชมวิวผาพญากูปรี คุ้มค่าแก่การขับรถขึ้นเขาเพื่อมาให้ถึงจุดชมวิวที่น้อยคนจะรู้จักแห่งนี้ ด้วยวิวที่ตระการตาและประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ เมื่อมาถึงบริเวณด้านหน้าจุดชมวิวจะสะดุดตากับรูปปั้นกูปรีขนาดใหญ่ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวนที่เคยมีผู้พบเห็นในป่าบริเวณนี้ พร้อมกับสวนหินโบราณอายุนับร้อยล้านปีที่จัดเอาไว้อย่างสวยงาม เมื่อผ่านจุดนี้ไปจะได้ตื่นตากับวิวทิวทัศน์กว้างๆ จากริมหน้าผาสูง มองเห็นทั้งทิวเขาพนมดงรัก รวมทั้งต้นน้ำห้วยสำราญที่กั้นระหว่าง อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ กับอ.บัวเชด จ.สุรินทร์ได้สุดสายตา ซึ่งเป็นพื้นที่ไม่ไกลจากชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในยามพระอาทิตย์กำลังลับไปหลังทิวเขาจะยิ่งสวยงามมากเป็นพิเศษ ซึ่งในบริเวณจุดชมวิวก็มีทั้งระเบียงริมหน้าผา ทางเดินเลียบหน้าผา ร้านกาแฟ ศาลาชมวิวให้นั่งพัก นอกจากนี้ยังมีบันไดให้เดินลงไปชมภาพวาดพญากูปรี น้ำตก และสักการะพระพุทธรูปใต้หน้าผานี้อีกด้วย

12.00 .

รับประทานอาหารกลางวันที่ ร้านอาหารสีเขียว ร้านดังในเมืองศรีสะเกษที่มีเมนูขึ้นชื่อหลายอย่าง โดยเฉพาะแจ่วฮ้อนเนื้อสูตรต้นตำรับของป้าเขียว แต่หากไม่ได้มากินเมนูเด็ดนี้ก็ยังมีอาหารเมนูอื่นๆ ให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะอาหารไทยและอาหารอีสานซึ่งทางร้านคัดสรรวัตถุดิบมาปรุงเป็นอย่างดี เช่น แกงคั่วหอมขม น้ำพริกปลาทู แกงหน่อไม้ ตำถั่ว ไข่เจียวไข่มดแดง เป็นต้น ส่วนบรรยากาศร้านก็ดูโปร่ง สบายๆ เน้นโทนสีขาวแซมสีเขียว เหมาะมากินทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น ตั้งอยู่ที่

ถ.มหาราช อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ

13.00 .

เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

 

 

เดินทางโดย รถไฟ

                สามารถต่อรถโดยสารเพื่อเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดศรีสะเกษได้โดย 

                        1. รถมอเตอร์ไซต์รับจ้าง 

                        2. รถสามล้อ 

                        3. รถเเท็กซี่

                        4. รถตู้โดยสารประจำทาง

 

ตารางเวลาการเดินทางรถไฟจาก กรุงเทพฯ - สุรินทร์



ตารางเวลาการเดินทางรถไฟจาก สุรินทร์ กรุงเทพฯ



                             

เดินทางโดย เครื่องบิน

สามารถต่อรถโดยสารเพื่อเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดศรีสะเกษได้โดย 

                        1. รถเเท็กซี่

                        2. รถตู้โดยสารประจำทาง

 

 

ตารางเวลาการเดินทางเครื่องบินจาก กรุงเทพฯ บุรีรัมย์



ตารางเวลาการเดินทางเครื่องบินจาก กรุงเทพฯ - อุบลราชธานี

 


โดย นางสาวแอนนา ซก

นักศึกษาฝึกประสบการณ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์

คณะเทคโนโลยีการจัดการ สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม



 

 

 

 

 

 



รายการนำเที่ยวหมู่บ้านเทนมีย์ ตำบลเทนมีย์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์

2 วัน 1 คืน

 

             วันที่ 1                ฐานปลูกหม่อนเลี้ยงไหม  ฐานหัตกรรมพื้นบ้าน  บ้านโบราณ                          

08.30 .

พร้อมกันที่อุทยานหลวงปู่ดุลย์ อตุโล วัดป่าโยธาประสิทธิ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ นักท่องเที่ยวสักการะขอพรหลวงปู่ดุลย์ อตุโล เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนออกเดินทางในครั้งท่องเที่ยวครั้งนี้

09.00 .

มุ่งหน้าสู่ หมู่บ้านเทนมีย์ ตำบลเทนมีย์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ถนนทางหลวงหมายเลข 214 ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที โดยประมาณ โดยรถบัสมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์

09.30 .

ถึง หมู่บ้านเทนมีย์ ตำบลเทนมีย์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ชาวบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยว ณ ศาลากลางหมู่บ้านเทนมีย์ ชมวิดิทัศน์ และ บรรยายข้อมูลพื้นฐานบ้านเทนมีย์ 

10.00.

จากนั้น  เยี่ยมชม ฐานปลูกหม่อนเลี้ยงไหม วิถีชีวิตอีกอย่างหนึ่งของชุมชนบ้านเทนมีย์ที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษ คือ วิถีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเกือบทุกหลังคาเรือน เพื่อให้ได้เส้นไหมพื้นบ้านในการนำมาทอผ้าเป็นเครื่องนุ่งห่มตัดเย็บสวมใส่ในชีวิตประจำวันและใส่ในเทศกาลงานประเพณีสำคัญของชุมชน นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกหม่อนและเลี้ยงไหม เพื่อทำเป็นเส้นไหมและเข้าสู่การทอผ้าเพื่อเกิดเป็นรายได้ภายในหมู่บ้าน

11.00 .

จากนั้น เยี่ยมชม ฐานหัตกรรมพื้นบ้าน สืบสาน ภูมิปัญญาหัตถกรรมและวัฒนธรรมการทอผ้าพื้นบ้านจากรุ่นสู่รุ่น รวมถึง กระบวนการที่เกี่ยวข้อง ทั้งการย้อมผ้า การมัดหมี่ การออกแบบลวดลาย การสร้างเอกลักษณ์บนผืนผ้า การแปรรูปผ้าไหม ฯลฯ สืบเนื่องจากชุมชนแห่งนี้มีการทอผ้าไหมไว้สำหรับใช้ในครัวเรือนมาโดยตลอด ซึ่งลวดลายของผ้าไหมมีทั้งรูปแบบโบราณดั้งเดิมและพัฒนาผืนผ้าเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามยุคสมัยนิยม ด้วยความเชี่ยวชาญและฝีมือที่ประณีตของปราชญ์ชุมชน ทำให้เกิด การพัฒนาผืนผ้าและการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผ้า ทั้งไหมและผ้าฝ้ายเป็นสินค้าของฝากของที่ระลึก นักท่องเที่ยวที่มาเยือน เพื่อศึกษา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเยี่ยมชม เกี่ยวกับกระบวนการการทอผ้า การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผ้าไหม และมีการจำหน่ายสินค้าให้นักท่องเที่ยวที่สนใจ อาทิเช่น กล่องกระดาษทิชชู่ ผ้าไหม ผ้าเช็ดมือ ผ้าไหมลวดลายต่าง ๆ ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน กระเป๋า เป็นต้น

12.00 .

รับประทานอาหารกลางวัน (อาหารพื้นบ้าน)

13.00 .

จากนั้น เข้าเยี่ยมชม บ้านโบราณ ณ บ้านเลขที่ 16 หมู่ 1 ตำบลเทนมีย์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เป็นบ้านโบราณที่เก่าแก่ที่สุดเพียงหลังเดียวที่เหลืออยู่ในปัจจุบัน อายุราว 135 ปี สืบทอดสู่ทาญาต รุ่นที่ 4 คือ นายสุรสิทธิ์ สถิตเวช ผู้เป็นเหลน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมลักษณะบ้านโบราณที่สร้างจากไม้โบราณ รูปแบบ อีสาน มีใต้ถุนยกสูงข้างบนบ้านมีห้องนอน ห้องโล่ง ห้องครัว และชานบ้าน พร้อมอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้เก่าแก่ ที่ยังคงรักษาไว้ อาทิเช่น ไห โอ่งน้ำ กระด้ง กระบุง คราด คันไถ ครกตำข้าว จักรยาน เกวียน ถ้วย จาน ช้อน ส้อม ทัพพี กาละมัง เตารีด หม้อ โต๊ะ เก้าอี้ ตู้กับข้าว ตะเกียง ขัน ที่นอน เป็นต้น

14.00 .

เข้าเยี่ยมชมการย้อมผ้าไหมด้วยสีธรรมชาติ การทอผ้าไหม การมัดหมี่ไหม นักท่องเที่ยวร่วมโปรแกรมทำการทอผ้าไหม การมัดหมี่ไหม

15.00 .

รับประทานอาหารว่าง (เครื่องดื่ม ขนมพื้นบ้าน)

15.30 .

เจ้าบ้านรับนักท่องเที่ยวเข้าโฮมสเตย์ นักท่องเที่ยวพักผ่อนตามอัธยาศัยและสามารถปั่นจักรยานเที่ยวชมทัศนียภาพบ้านเทนมีย์โดยรอบได้ 

18.30 .

รับประทานอาหารขันโตกร่วมกัน

19.00 .

ร่วมกิจกรรมภาคค่ำ รับชมการแสดงของชาวบ้าน รำกะโน๊บติงตอง, รำไหว้ครูบูชาบายศรีรำสาวไหม, การแสดงพื้นบ้านกันตรึม

21.00 .

นักท่องเที่ยวเข้าที่พักโฮมสเตย์ พักผ่อนตามอัธยาศัย



             วันที่ 2              ซแรย์ อทิตยา เกษตรอินทรีย์ของดีครัวเรือน                          

06.00 .

ตักบาตรร่วมกัน บริเวณหน้าหมู่บ้านเทนมีย์

07.00 .

รับประทานอาหารเช้า ณ ที่พักโฮมสเตย์

09.00 .

รวมตัวกัน ณ ศาลากลางหมู่บ้านเทนมีย์ เพื่อเข้าชม ซแรย์ อทิตยาแหล่งเรียนรู้เรื่องการเกษตรแบบพอเพียงของจังหวัดสุรินทร์

09.10 .

ถึง ซแรย์ อทิตยาแหล่งเรียนรู้เรื่องการเกษตรแบบพอเพียงของจังหวัดสุรินทร์ ที่นี่เกิดขึ้นมาจากความคิดริเริ่มของพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณซึ่งได้ทรงตั้งพระทัยว่าจะให้สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์การเรียนรู้ที่เน้นในเรื่องของการเกษตรตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงสอดคล้องกันกับพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดชซึ่งในปัจจุบันที่นี่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของ “โครงการเกษตรอทิตยาทร” นักท่องเที่ยวสามารถชมทัศนียภาพของธรรมชาติที่สวยงาม ที่นี่ได้มีการจัดแบ่งพื้นที่ไว้เพื่อการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อถ่ายทอดวิชาการทางการเกษตรอีกด้วย

10.00 .

เดินทางกลับหมู่บ้านเทนมีย์ เพื่อเข้าชม เกษตรอินทรีย์ของดีครัวเรือน บ้านเทนมีย์ เกือบทุกหลังคาเรือนจะมีการปลูกผักสวนครัว ไว้ประกอบอาหารและแลกเปลี่ยนกันในชุมชน ครอบครัวไหนปลูกไว้จำนวนมากมักเก็บไปจำหน่ายเป็นรายได้เสริม ดังนั้นจึงมีบ้านตัวอย่างเกษตรอินทรีย์ของดีครัวเรือน ณ บ้านของ นางสนอง และ นายบุญมี เพ็ชรมาก นักท่องเที่ยวที่มาเยือน ศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เยี่ยมชม ผักปลอดสารพิษ 100 เปอร์เซ็นต์ ตลอดทั้งปี อาทิเช่น ผักกาด ผักบุ้ง ผักโหรพา ต้นหอม ผักชี ใบยี่หร่า ตะไคร้ มะเขือ มะเขือเทศ ผักสลัด นอกจากนี้ยังปลูกกล้วยหอม และเลี้ยงปลาดุก อีกด้วย

11.00 .

รวมตัวกัน ณ ศาลากลางหมู่บ้านเทนมีย์ ส่งนักท่องเที่ยวเดินทางกลับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์

11.30.

เดินทางถึงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์

เดินทางโดย รถไฟ

                สามารถต่อรถโดยสารเพื่อเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดศรีสะเกษได้โดย 

                        1. รถมอเตอร์ไซต์รับจ้าง 

                        2. รถสามล้อ 

                        3. รถเเท็กซี่

                        4. รถตู้โดยสารประจำทาง

 

ตารางเวลาการเดินทางรถไฟจาก กรุงเทพฯ - สุรินทร์


                                         ตารางเวลาการเดินทางรถไฟจาก สุรินทร์ กรุงเทพฯ



                     

เดินทางโดย เครื่องบิน

สามารถต่อรถโดยสารเพื่อเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดศรีสะเกษได้โดย 

                        1. รถเเท็กซี่

                        2. รถตู้โดยสารประจำทาง

 

 

ตารางเวลาการเดินทางเครื่องบินจาก กรุงเทพฯ บุรีรัมย์

 


ตารางเวลาการเดินทางเครื่องบินจาก บุรีรัมย์ - กรุงเทพฯ

 


 โดย นางสาวแอนนา ซก

นึกศึกษาฝึกประสบการณ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์

คณะเทคโนโลยีการจัดการ สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม